[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
“วิโรจน์”ลั่นศึกซักฟอก อย่าคิดว่านามสกุล ”จึงรุ่งเรืองกิจ” แล้วจะรอด(2 ม.ค. 2568, 16:12) ผลสลาก N3 งวด 2 มกราคม 2568 ออกแล้ว ตรวจหวย N3 ทุกรางวัลที่นี่(2 ม.ค. 2568, 16:11) “พิทักษ์เดช” ป้อง “ชวน” ตะเพิดลิ่วล้อเพื่อไทย “ราเมศ” จวก รัฐบาลจะพัง “ทักษิณ”(2 ม.ค. 2568, 16:04) เงินสะพัด ปี 2024 ที่ผ่านมา Nvidia เปย์หนักสุด ลงทุนสตาร์อัพ AI แซงหน้า Microsoft -Amazon (2 ม.ค. 2568, 16:01) ด่วน! เปิดราคา "บัตรผีทีมชาติไทย" พบ "เวียดนาม" ที่ราชมังฯ นัดชิงอาเซียน คัพ 2024(2 ม.ค. 2568, 15:57) ฟุตบอล "เมืองไทยลีก" (ไทยลีก 2) ทดลองใช้ระบบ VAR Light ในเลก 2 ฤดูกาล 2024-25(2 ม.ค. 2568, 15:40) คนรุ่นใหม่ บ้านไม่รวย สร้างตัวยาก เปิด 3 ทางรอด จาก World Bank แค่ขยันไม่พอ ต้องเก่งรอบด้าน (2 ม.ค. 2568, 15:39) เริ่มเลยแต่ต้นปี “สนธิญา” ร้องนายกฯ 4 เรื่อง รวมกรณี “ทักษิณ” คุยนายกฯ มาเลเซีย(2 ม.ค. 2568, 15:28) ทีมชาติไทยโดนแน่ "กุนซือเวียดนาม" เผย 2 ปัจจัยได้เปรียบ ลุ้นชนะนัดแรก อาเซียนคัพ รอบชิง(2 ม.ค. 2568, 15:28) เริ่มต้นยุคสมัยใหม่เต็มตัว! ท็อป 5 นักเตะค่าตัวประเมินสูงที่สุดในโลก ประจำปี 2025(2 ม.ค. 2568, 15:26) จ้าวลู่ซือ ยอมรับเป็นเรื่องจริง หลังเพื่อนแฉค่ายกดดันนางเอกสาว ทำร้ายจนป่วยหนัก(2 ม.ค. 2568, 15:24) ดีเอสไอ ยืนยันคดี “ดิไอคอน” ภาค 2 อยู่ระหว่างขยายผล ไม่จบแค่ “18 บอส”(2 ม.ค. 2568, 15:18) สิ้น "ยิ่งยง สะเด็ดยาด" คอลัมนิสต์ชื่อดัง เสียชีวิตในวัย 83 ปี(2 ม.ค. 2568, 15:15) ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมใหญ่ เอซีซี มีวาระสำคัญเลือกตั้งประธานคนใหม่(2 ม.ค. 2568, 15:11) เทรนด์เทคเทคโนโลยีเอเชีย ปี 2025 ในยุคทรัมป์ 2.0 มีอะไรน่าจับตาบ้าง?(2 ม.ค. 2568, 15:10) เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ พระราชทานบัตรอำนวยพรวันขึ้นปีใหม่ 2568 แก่นายกรัฐมนตรี(2 ม.ค. 2568, 15:09) ป.ป.ช. ฟัน 3 อดีต สส. ฝากบัตรลงคะแนน เชือด สส.ภูมิใจไทย ให้คนอื่นจ่ายค่ารักษาแทน(2 ม.ค. 2568, 14:41) ตรวจหวย 2 ม.ค. 2568 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดล่าสุด(2 ม.ค. 2568, 14:40) มาแล้ว "มาดามแป้ง" เคลื่อนไหวล่าสุดก่อนทีมชาติไทย ดวลเวียดนาม อาเซียนคัพ รอบชิง นัดแรก(2 ม.ค. 2568, 14:25) Huawei Watch GT 5: นาฬิกาอัจฉริยะระดับกลางที่มีจุดขายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์(2 ม.ค. 2568, 14:23)
เมนูหลัก
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ (ตัวแสดงอารมณ์)
link banner
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก
พยากรณ์อากาศ
 
ค้นหาจาก google
  

ประวัติ
    เรื่อง : พระสังกัจจาย(หลวงพ่ออ้วน)

เจ้าของผลงาน : สาระความรู้
อังคาร ที่ 10 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2562
เข้าชม : 706    จำนวนการดาวน์โหลด : 0 ครั้ง
Not Rated stars เฉลี่ย : Not Rated จาก 0 ครั้ง.

บทคัดย่อ :

                                                   พระสังกัจจาย(หลวงพ่ออ้วน)

 

วัดพระพุทธบาทเขาทราย มีขนาดหน้าตัก กว้าง ๘ เมตร สูง ๘ เมตรประดิษฐานหลังศาลาการเปรียญหลังใหญ่ไปถึงบริเวณสระน้ำ ก็มองเห็น
     “พระสังกัจจายน์” หรือ “หมีเล่อฝอ(弥勒佛)” หรือ ที่นิยมเรียกกันว่า “พระสังกัจจายน์โพธิสัตว์” เป็นคำเรียกกันทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ซึ่งเป็นองค์เดียวกันกับคำเรียกทางพุทธศาสนาฝ่านหินยานคือ “พระอาริย์” (พระศรีอารยเมตไตรย)อันเป็นคติความเชื่อทางพุทธศาสนาที่หมายถึงพระพุทธเจ้า องค์ใหม่ ที่จะบังเกิดมาในอนาคตกาล ณ เวลานั้น เชื่อกันว่า สันติสุขอันแท้จริงจะบังเกิดขึ้นแก่มวลมนุษยชาติ
           รูปลักษณะของพระสังกัจจายน์ (พระศรีอาริย์)ตามแบบคติแบบจีนนั้น จะเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะอ้วนพลุ้ยเปลือยอก มีใบหน้าที่สดชื่นร่าเริง สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และมักหัวเราะเริงร่าอยู่เสมอ สองหูยาวจรดบ่า มักเห็นท่านในลักษณะท่าทางนั้งอย่างสบายอารมณ์ และปรากฏรูปเด็ก ๆ วิ่งรายล้อม อยู่รอบตัวพระสังกัจจายน์ เด็ก ๆ ที่ปีนป่ายอยู่รอบตัวท่านจะต้องเป็นเด็กผู้ชายจำนวน 5 คน เด็กชาย 5 คนเป็นความหมายแฝงที่หมายถึง “อู่ฝู” (五福)หรือความสุข 5 ประการ อันถือเป็นความสุขที่เที่ยงแท้ของชีวิตมนุษย์
ในตำนานพุทธสาวกทั้ง๘๐ องค์ กล่าวว่า พระสังกัจจายน์ เป็นบุตรของพราหมณ์ปุโรหิต กัจจานโคตร หรือกัจจายนโคตร ในแผ่นดินของพระเจ้าจัณฑปัชโชต กรุงอุชเชนี เมื่อกัจจายนะกุมารเจริญวัย เรียนจบไตรเพท บิดาได้ถึงแก่กรรม จึงได้รับตำแหน่งปุโรหิตแทนบิดา
ครั้นต่อมาพระเจ้าจัณฑปัชโชต ทรงทราบว่า พระศาสดาตรัสรู้แล้ว เสด็จเที่ยวโปรดสัตว์สั่งสอน ประชุมชนธรรมะที่พระองค์สอนนั้น เป็นธรรมที่แท้จริง ยังประโยชน์แก่ผู้ประพฤติตาม จึงมีพระประสงค์ใคร่เชิญเสด็จพระบรมศาสดาไปประกาศที่กรุงอุชเชนี จึงรับสั่งให้กัจจายนะปุโรหิตไปทูลเสด็จกรุงอุชเชนี
กัจจายนะปุโรหิตพร้อมด้วยผู้ติดตาม ๗ คน จึงออกจากกรุงอุชเชนี ครั้นมาถึงจึงพากันเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา พระองค์ทรงเทศน์สั่งสอน ในที่สุดบรรลุอรหันต์ทั้ง ๘ คน หลังจากนั้นทั้ง ๘ ก็ทูลขออุปสมบท ทรงขออนุญาต ครั้นอุปสมบทแล้ว จึงทูลเชิญเสด็จกรุงอุชเชนี ตามหน้าที่ พระองค์รับสั่งว่า
"ท่านไปเองเถิด เมื่อท่านไปแล้ว พระเจ้าปัชโชตจักทรงเลื่อมใสท่าน"
พระ กัจจายนะจึงออกเดินทางพร้อมพระอรหันต์อีก ๗ องค์ ที่ติดตามมาด้วย กลับคืนสู่กรุงอุชเชนี และประกาศสัจธรรมให้แก่พระเจ้าจัณฑปัชโชต พร้อมชาวพระนครเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และถ้อยคำประการอันเป็นสัจธรรม
หลังจากนั้นกลับคืนสู่สำนักของพระพุทธองค์ ตรัสว่า ท่านเป็นผู้ฉลาดในการอธิบายแห่งการย่อคำพิสดาร
นับจากนั้นมาพระสังกัจจายน์ก็เป็นผู้สรุปย่อคำสอนบอกแก่บรรดาสาวกทั้งหลาย ด้วยความพอใจอย่างยิ่ง ในคำย่อนั้น และยังเป็นผู้ทูลขอให้พระพุทธองค์บัญญัติแก้ไขพุทธบัญญัติบางประการ ปรากฏว่าเป็นที่พอพระทัยแก่องค์พระศาสดาเป็นอย่างมาก
พระสังกัจจายน์ เป็นผู้มีรูปงาม ผิวเหลืองดุจทอง ตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งมีโสเรยยะบุตรเศรษฐีคะนอง เห็นพระสังกัจจายน์จึงปากพล่อยกล่าวว่า ถ้าเราได้ภรรยามีรูปกายงดงามเยี่ยงท่านนี้ จักพอใจยิ่ง
พลันปรากฏว่าโสเรยยะบุตรมหาเศรษฐีหนุ่มคะนองปาก ได้กลายเพศเป็นหญิงในทันที จึงหลบหนีไป ต่อมาได้สามีและบุตรสองคน จึงกลับมาขอขมากับพระสังกัจจายน์ โสเรยยะจึงกลับคืนสู่เพศชายเช่นเดิม นับว่าพระสังกัจจายน์มีฤทธิ์อำนาจยิ่งองค์หนึ่งในพุทธสาวก
มีเรื่องแทรกเข้ามาว่าเพราะ รูปกายอันงดงามของพระสังกัจจายน์  สร้างความปั่นป่วนแก่อิตถีเพศอย่างมาก จึงได้เนรมิตกายใหม่ให้อ้วน พุงพลุ้ย น่าเกลียด เพื่อความสงบแห่งจิตและกิเลส
เรื่องราวของพระสังกัจจายน์ พอสรุปได้ว่าเป็นพระพุทธสาวกที่มีความเฉลียวฉลาดมีความรู้ และเป็นที่โปรดของพระพุทธองค์ยิ่ง มีบารมี มีอิทธิฤทธิ์ ผู้ใดบูชาพระสังกัจจายน์ จึงได้รับพรจากพุทธสาวก อันเป็นเอตทัคคะอย่างสมบูรณ์
เมื่อพูดถึงเรื่องโชคลาภแท้ที่จริงแล้วชาวพุทธเราจำนวนไม่น้อยต่างได้ลาภอันประเสริฐกันทุกคน ลาภอันประเสริฐที่ว่า คือ  "ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" นั่นเองตามบาลีที่ว่า "อโรคฺยาปรฺมา ลาภา"
          ทั้งนี้พระพุทธเจ้าทรงเน้นเรื่องโรคทางใจมากกว่าเรื่องโรคทางกายพระองค์สรุปว่า "ผู้ที่ไม่มีโรคทางกายเป็นเวลาหลายปีนั้นพอหาได้ แต่ผู้ที่ไม่มีโรคทางใจแม้เพียงชั่วเสี้ยวนาที ก็หาได้ยาก" จึงมีคำกล่าวตามมาที่ว่า "ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ" เช่นกัน
          ในทางพุทธศาสนามหายานนั้น คติการสร้างรูปเคารพพระสังกัจจายน์ หรือ “หมีเล่อฝอ” เริ่มเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ซ่ง(ซ้อง) ซึ่งเป็นสมัยแห่งความรุ่งเรืองทางด้านศิลปะหัตถกรรมจีน รูปเคารพทางพุทธศาสนาจึงถูกนำมาใช้ในความหมายที่ดีแก่ราชสำนักและคหบดีทั่ว ไป ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ภาพวาด จิตรกรรมจีน ประเพณี ประติมากรรมพระสังกัจจายน์ หรือ “หมีเล่อฝอ” จึงถูกนำมาใช้วัฒนธรรมมงคล เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขสมหวังและมีความหมายที่ดีสำหรับใช้เป็นภาพอวยพรให้ แก่กันและกัน เพื่อให้การดำเนินชีวิตใด ๆ สำเร็จสมประสงค์และเพียบพร้อมด้วยปิติสุขตลอดไป




ประวัติ 5 อันดับล่าสุด

      หลวงหิน 10/ธ.ค./2562
      พระประจำวันเกิด 10/ธ.ค./2562
      หลวงพ่อเงินทองไหลมาเทมาตลอดกาล 10/ธ.ค./2562
      พระสังกัจจาย(หลวงพ่ออ้วน) 10/ธ.ค./2562
      เจ้าแม่กวนอิม 10/ธ.ค./2562